ตอบข้อสงสัย รักษาหลุมสิว กี่ครั้งถึงเห็นผล ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน
ปัญหาหลุมสิวแก้ไขได้ แนวทางการรักษา พร้อมแนะนำ รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี
หากคุณเคยเป็นสิวมาก่อน รอยแผลเป็นจากสิวอาจทำให้รู้กังวลใจและไม่สบายใจได้ เพราะรอยแผลเป็นจากสิวอาจทำให้ผิวมีลักษณะหยาบและไม่สม่ำเสมอ แต่การรักษาสามารถทำให้ผิวเรียบเนียนและสีผิวสม่ำเสมอขึ้นได้ การรักษาหลุมสิวนั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหน และทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล บทความนี้จะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิวให้ทุกคนได้รู้กัน
รอยแผลเป็นจากสิวคืออะไร
ก่อนจะไปรู้ถึงวิธีรักษาหลุมสิวนั้น เรามารู้จักกันก่อนว่ารอยแผลเป็นจากสิวคืออะไร ? รอยแผลเป็นจากสิวสามารถเกิดขึ้นได้สองรูปแบบ ทั้งแบบเป็นหลุมสิวและแบบเป็นรอยแผลเป็นที่นูนขึ้นมาจากผิวหนังหรือคีลอยด์ โดยทั่วไปรอยแผลเป็นจากสิวจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นสิวแล้วผิวหนังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เมื่อผนังรูขุมขนถูกทำลายเนื่องจากการอักเสบ แบคทีเรีย เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และน้ำมัน จะทำให้เกิดรอยแผลหลังจากที่สิวหาย รอยแผลเป็นจากสิวส่วนใหญ่ไม่สามารถหายเองได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่จะต้องได้รับการดูแลด้านความงามเพื่อกำจัดรอยแผลเป็นจากสิวด้วยการรักษาหลุมสิว ซึ่งการรักษาด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลงเร็วขึ้นได้
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการกำจัดรอยแผลเป็นจากสิว
การรักษารอยแผลเป็นทุกชนิดต้องใช้เวลาและความอดทน เพราะโครงสร้างผิวของคุณจะต้องได้รับการฟื้นฟูทีละชั้น ปัจจัยต่าง ๆ จะเป็นตัวกำหนดว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการกำจัดรอยแผลเป็นจากสิว แต่โดยทั่วไปแล้วการรักษาหลุมสิวนั้นจะใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเห็นการปรับปรุงรูปลักษณ์อย่างชัดเจน โดยปกติจะต้องทำการรักษาติดต่อกัน 3-6 ครั้งเพื่อให้การลดรอยแผลเป็นเริ่มดูจางลง ทั้งนี้การรักษาหลุมสิวจะใช้เวลานานแค่ไหนนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ประเภทของแผลเป็น
ประเภทของแผลเป็นจากสิวเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดระยะเวลาในการรักษา โดยทั่วไปรอยแผลเป็นจากเม็ดสีจะอยู่ที่ชั้นบนของผิวหนัง ดังนั้นการเกิดรอยดำหลังการอักเสบอาจต้องการการรักษาน้อยกว่ารอยแผลเป็นจากหลุมสิว ส่วนหลุมสิวแบบคลื่น หลุมสิวแบบกล่อง รอยแผลเป็นคีลอยด์ ก็จะใช้เวลาในการรักษาที่น้อยกว่ารอยสิวแบบจุดหลุมลึก - ตำแหน่งแผลเป็น
ตำแหน่งของแผลเป็นจากสิวอาจส่งผลต่อระยะเวลาในการรักษาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นด้วย เนื่องจากตำแหน่งจะกำหนดความลึกของแผลเป็น โดยทั่วไปแล้วแผลเป็นที่อยู่ลึกลงไปจะต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่างเช่นรอยหลุมสิวที่แก้มอาจรักษาได้ยากกว่ารอยหลุมสิวบริเวณหน้าผาก - ความรุนแรงของแผลเป็น
ความรุนแรงของแผลเป็นขึ้นอยู่กับขนาด สี และความลึกของแผล แผลเป็นที่อยู่ลึกจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างคอลลาเจนใหม่ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าจะต้องได้รับการรักษามากกว่า 3 ครั้ง ในขณะที่รอยแผลเป็นตื้นก็อาจกำจัดได้ยากในบางพื้นที่ของใบหน้า ดังนั้นการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
รอยแผลเป็นจากสิวรักษาได้อย่างไร
รอยแผลเป็นจากสิวโดยเฉพาะบนใบหน้า มักจะมีลักษณะเป็นรอยดำหรือรอยแดง รวมถึงเป็นหลุมหรือรอยบุ๋มเล็ก ๆ รอยแผลเป็นประเภทหลุมสิวนั้นจะรักษาได้ยากกว่า ซึ่งรอยแผลเป็นจากสิวจะใช้วิธีการรักษาหลายวิธี แต่ละวิธีมีระยะเวลาการรักษาที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปการรักษาหลุมสิวจะต้องใช้การรักษา 3-6 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแผลเป็น และการรักษาทั่วไปมีอะไรบ้าง ?
การรักษาทั่วไปบางอย่าง ได้แก่ เลเซอร์ CO2, เลเซอร์ Pico, การรักษาด้วย IPL, การลอกผิวด้วยสารเคมี, การฉีดไมโครนีดลิ่ง, การกรอผิว และสารเติมเต็มผิวหนัง โดยการเลือกรักษาหลุมสิวต้องเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับสภาพผิว ประเภทของแผลเป็น และความรุนแรงของแผลเป็น เพื่อสามารถกำจัดรอยแผลเป็นจากสิวและหลุมสิวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพสูงสุดก็คือการรักษาด้วยเลเซอร์
LASER FRAXE คืออะไร ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล
LASER FRAXE คือการรักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ล่าสุดที่มีประสิทธิภาพ เป็นเลเซอร์ขนาดเล็กมากที่ไม่รุกราน ที่เปลี่ยนพื้นผิวของใบหน้าคุณโดยการเจาะผิวหนังของคุณเพื่อกระตุ้นการเติบโตของคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ การรักษาวิธีนี้จะช่วยให้ริ้วรอยและรอยแผลเป็นเรียบเนียนขึ้น ปราศจากรอยหลุมสิว ลดรูขุมขน ลดจุดสีน้ำตาลและรอยดำ และช่วยปรับสีผิวของคุณให้กลับมาเหมือนเดิมได้ โดยเลเซอร์จะผลัดผิวเสียชั้นลึกที่สุดให้หลุดออกอย่างทั่วถึง ถ้าเป็นการรักษาเม็ดสีจะเห็นผลใน 1-2 ครั้ง โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก แต่หากต้องการรักษาหลุมสิวควรทำเดือนละ 1-2 ครั้ง จำนวน 5-10 ครั้ง ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เหตุใดการรักษารอยแผลเป็นจึงใช้เวลานานถึงจะเห็นผล
เป้าหมายของการรักษารอยแผลเป็นจากสิว โดยเฉพาะการรักษาหลุมสิวคือการเพิ่มการผลิตคอลลาเจนภายในผิวหนังเพื่อลดการเกิดรอยแผลเป็น ซึ่งการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังขึ้นมาใหม่จะใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและตำแหน่งของรอยแผลเป็นด้วย และกระบวนการสร้างคอลลาเจนอาจใช้เวลาถึงสี่สัปดาห์หลังจากสร้างคอลลาเจนใหม่ อายุและความรุนแรงของแผลเป็นจะเป็นตัวกำหนดว่าต้องสร้างคอลลาเจนมากน้อยเพียงใดเพื่อปรับปรุงลักษณะผิวของคุณนั่นเอง ในขณะเดียวกัน การรักษารอยแผลเป็นที่มีเม็ดสี วงจรการหมุนเวียนของเซลล์ตามธรรมชาติจะใช้เวลา 28 ถึง 40 วันจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ทรีตเมนต์ผลัดผิวจะเร่งกระบวนการนี้ให้ผลัดเซลล์ผิวใหม่เร็วขึ้น ดังนั้น หากเป็นรอยแผลเป็นที่ไม่ได้เป็นหลุมสิวจึงอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่รอยดำหลังการอักเสบและรอยตำหนิอื่น ๆ จะจางลง
รักษาหลุมสิวที่ไหนดี
การรักษาหลุมสิวนั้นอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพผิว ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีการรักษาให้เลือกหลายวิธี แต่ละวิธีก็จะเหมาะกับปัญหาหลุมสิวที่แตกต่างกัน รวมถึงระยะเวลาในการรักษาก็จะแตกต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับลักษณะของหลุมสิวและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
หากคุณมีปัญหารอยแผลเป็นสิวต่าง ๆ รวมถึงหลุมสิวนั้น สามารถขอเข้ารับคำปรึกษาได้เลยที่ ยศสินี คลินิกรักษาสิว ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและผิวพรรณครบวงจร โดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนังกว่า 17 ปี สามารถรักษาหลุมสิวและแผลเป็นให้เห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียนด้วยวิธีการที่ได้ผลและทันสมัยที่สุด พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐานที่วงการแพทย์ให้การยอมรับ เน้นการรักษาที่เห็นผลมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
รักษาหลุมสิว ติดต่อ ยศสินี คลินิก
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836,
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com